“ขุนเข่า มีนบุรี” กับบทบาทใหม่จากนักมวยมืออาชีพสังกัดค่าย ป.กอบเกื้อ สู่การเป็นนักศึกษาคณะสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร

นายจันทร์ ศาลา หรือฉายาที่รู้จักกันในวงการมวยมืออาชีพว่า “ขุนเข่า มีนบุรี” นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ได้เล่าเรื่องราวจากสนามมวยสู่รั้วราชมงคลพระนครว่า จุดเริ่มต้นของการเป็นนักมวยเริ่มจากการที่ชีวิตวัยเด็กคลุกคลีอยู่ในค่ายมวย และต้องป้องกันตัวเองจากเพื่อนที่มารังแกที่โรงเรียน ทำให้ฝึกซ้อมมวยอย่างจริงจัง จนได้เข้าแข่งขันเป็นนักมวยมืออาชีพตั้งแต่อายุ 12 ปี ปัจจุบันชกในรุ่น 65 กิโลกรัม หรือ 135 ปอนด์ ผ่านขึ้นชกมาแล้วทั่วประเทศ โดยได้รับรางวัลมากมาย อาทิ รางวัลเหรียญทอง กีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช รางวัลเหรียญเงิน กีฬาแห่งชาติ ที่จังหวัดนครราชสีมา รางวัลเหรียญทองแดง กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ที่จังหวัดศรีสะเกษ และการแข่งขันที่ภูมิใจมากที่สุดคือการแข่งแชมป์ภูธร จ.ชลบุรี ที่สามารถคว้าเข็มขัดแชมป์ภูธรมาครองได้

หากพูดถึงเรื่องการศึกษาจันเล่าว่า อาชีพนักมวยไม่ยืนยาวเหมือนกับอาชีพอื่นๆ มีนักมวยจำนวนไม่มากที่ยังชกมวยอยู่เมื่ออายุล่วงเข้าเลขสาม ตนจึงจำเป็นต้องมองอนาคตไปให้ไกลกว่านั้น จึงตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา แต่ด้วยความที่มีอาชีพเป็นนักมวยต้องซ้อมมวยทุกวัน จึงมองหาการเรียนที่ไม่ต้องมีกิจกรรมหนักเกินไป ถ้าเข้าศึกษาต่อด้านการกีฬาโดยตรง ก็จะทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อน เนื่องจากจะต้องซ้อมกีฬาทั้งในมหาวิทยาลัย และต้องกลับมาซ้อมมวยหลังเลิกเรียน ประกอบกับใจรักในการสอนจันจึงตัดสินใจเลือกเรียนครู และด้วยความที่ต้องการเป็นครูมืออาชีพจึงมุ่งมาเรียนระดับปริญญาตรีด้านครูช่าง ในสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร อีกทั้งยังเป็นนักศึกษาทุนของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครอีกด้วย โดยหลังจากจบการศึกษาปริญญาตรี ภาคปกติ 5 ปีแล้วจันมุ่งมั่นที่จะศึกษาในระดับปริญญาโท เพื่อที่จะเข้ามาเป็นครูในคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครต่อไป