ราชมงคลพระนครจัดงานเทิดพระเกียรติเสด็จเตี่ย “พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” พร้อมเปิดให้ชม “เรือนหมอพร” เรือนไทยโบราณซึ่งได้รับคัดเลือกให้ได้รับพระราชทานรางวัลอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2558 ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
รศ.สุภัทรา โกไศยกานนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร กล่าวว่า การจัดงานพิธีเทิดพระเกียรติพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขต อุดมศักดิ์ เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ 19 พฤษภาคม ทางมหาวิทยาลัยได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยและประชาชนได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของท่าน สำหรับในปีนี้จะพิเศษกว่า ทุกปี เพราะว่าพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ จะมีอายุครบรอบ 40 ปี นับจากวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระกรุณาธิคุณเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดเมื่อปี 2519 ซึ่งในช่วงเช้ามีการถวายภัตตาหารแก่พระภิกษุสงฆ์
“ในงานนี้มหาวิทยาลัยจะเปิดให้เข้าชมเรือนหมอพร ซึ่งได้รับรางวัล อนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2558 ประเภทอาคารสถาบันและอาคารสาธารณะ โดยทางสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ระบุว่า ได้คัดเลือกให้เรือนหมอพรได้รับรางวัลครั้งนี้เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ที่มีคุณูปการต่อการอนุรักษ์มรดก ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นให้คงอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อมหาวิทยาลัยได้รับหมายกำหนดการก็จะได้เข้ารับพระราชทานโล่เกียรติยศ และเกียรติบัตรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีต่อไป” อธิการบดีกล่าว
สำหรับเรือนหมอพร เหตุที่ชื่อเรือนหมอพรนั้น มาจากพระนามของกรมหลวงชุมพรฯ ในฐานะหมอผู้รักษาคนไข้ เมื่อปี พ.ศ. 2454-2460 พระองค์ได้กราบบังคมทูลลาออกจากราชการ และทรงสนพระทัยศึกษาในวิชาการแพทย์แผนโบราณจากตำราไทยและจากแพทย์ชาวต่างชาติ ทรงเขียนตำรายาแผนโบราณลงใน สมุดข่อยและทรงตั้งชื่อตำรายาเล่มนี้ว่าพระคัมภีร์ อติสาระวรรค โบราณะกรรม และปัจจุบันนะกรรม ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ จ.สมุทรปราการ นอกจากจะทรงศึกษาค้นคว้าตำรายาต่าง ๆ แล้ว พระองค์ยังได้ทรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บแก่คนทั่วไปโดยไม่คิดค่ารักษาหรือค่ายา ทรงฉลองพระองค์แบบง่ายๆ ใส่เสื้อราชปะแตนและนุ่งผ้าม่วงตามสมัยนิยมในยุคนั้น ถือไม้เท้าและสะพายกระเป๋ายา รักษาชาวบ้านตั้งแต่ละแวกนางเลิ้งไปจนถึงเยาวราช ผู้คนส่วนใหญ่จึงรู้จักพระองค์ท่านเป็นอย่างดีในนามของหมอพร
ลักษณะเรือนหมอพรเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น เป็นศิลปกรรมแบบ นีโอ–คลาสสิก (Neo-Classic) แต่ได้ดัดแปลงให้เข้ากับภูมิอากาศในเขตร้อนด้วยการสร้างเป็นเรือนไม้ เริ่มแพร่หลายในสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นที่นิยมสร้างกันในหมู่คหบดี ขุนนาง และชนชั้นกลางทั่วไป ปัจจุบันเรือนหลังนี้อยู่ในความดูแลของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ซึ่งเปลี่ยนจากเรือนพยาบาลมาเป็นที่ทำการของร้านสหกรณ์พระนคร ซึ่งเรียกว่าร้านฝึกการค้า ดำเนินการโดยนักเรียน จนเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาเสด็จฯ เป็นประธานในพิธีเปิดพระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และมีพระราชกระแสรับสั่งให้อนุรักษ์เรือนหมอพรไว้
ต่อมาเรือนหมอพรมีสภาพทรุดโทรมลง จึงย้ายเรือนออกไปไว้ที่หอประชุมอาภากร แล้วบูรณะเรือนหลังนี้ขึ้นใหม่ และได้จัดเรือนหมอพรเป็น “ศูนย์วัฒนธรรม วิทยาเขตพณิชยการพระนคร สถาบันราชมงคลเฉลิมพระเกียรติ” มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2542 โดย ฯพณฯ ศาสตราจารย์ ดร.อำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นประธานในพิธี
ภายในจัดแสดงสิ่งของต่างๆ อาทิ ฉลองพระองค์ทหารเรือ พระมาลา อินทรธนู หีบเหล็กสำหรับเก็บข้าวของเครื่องใช้ชิ้นเล็ก ที่ปั๊มยา เครื่องบดยา หินบดยาพร้อมลูกบิด ตะแกรงร่อนยา หูฟัง อับแก้วเจียระไน โกร่งบดยาขนาดใหญ่ รวมทั้งภาพถ่ายต่างๆ โดยสิ่งของทั้งหลายเหล่านี้ได้รับการบริจาคจากผู้เคารพศรัทธาพระองค์ท่าน ปัจจุบันเรือนหมอพรอยู่ในความดูแลของคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พระนคร ศูนย์พณิชยการพระนคร เปิดให้ชมนิทรรศการพระราชประวัติกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ทุกวันเว้นวันหยุดราชการ