News

มทร.พระนคร จับมือ 2 บริษัท พัฒนาหลักสูตร-เพิ่มทักษะในสถานประกอบการ

เมื่อวันที่18 สิงหาคม 2565 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) พระนคร ร่วมกับบริษัท อาซาฮี-ไทย อัลลอย จำกัด และบริษัท ดีบิค จำกัด ลงนามความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนและบริการวิชาการ เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีสมรรถนะตรงตามภาคอุตสาหกรรม โดยมีดร.ณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดี ลงนามความร่วมมือกับคุณพงษ์ศักดิ์ จินดาสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซาฮี-ไทย อัลลอย จำกัด และดร.อรรณพ ปิยะสินธ์ชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีบิค จำกัด ณ ห้องประชุมรพีพัฒน์ สำนักงานอธิการบดี มทร.พระนคร ศูนย์เทเวศร์

ดร.ณัฐวรพล เปิดเผยว่า การพัฒนางานวิจัยและกำลังคนรองรับการเติบโตของเทคโนโลยีถือเป็นส่วนสำคัญในการวางเป็นรากฐาน เพื่อพัฒนาศักยภาพและยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศไทย มทร.พระนคร จึงได้ร่วมกับบริษัท อาซาฮี-ไทย อัลลอย จำกัด และบริษัท ดีบิค จำกัด  พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน และสนับสนุนนักศึกษาของมหาวิทยาลัยให้ได้รับประสบการณ์ตรงโดยใช้พื้นที่ของสถานประกอบการ (Workspaces and Laboratories) ในการจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนทำการผลิต ระบบการแก้ปัญหา มีทักษะการออกแบบ และสร้างผลิตภัณฑ์เชิงบูรณาการองค์ความรู้ ในลักษณะการเรียนรู้ควบคู่กับการทำงาน (Work-integrated Learning: WIL) โดยใช้ระบบการเรียนรู้ด้วยโครงการเป็นฐานการเรียนรู้ (Project Based Learning หรือการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning) เน้นต่อยอดให้ผู้เรียนมีพื้นฐานช่างเทคนิคอุตสาหกรรม นับเป็นการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ให้มีทักษะที่สูงขขึ้น นอกจากนี้ยังสนับสนุนการพัฒนาอาจารย์  นวัตกรรมในการสร้างสื่อและระบบการเรียนรู้หรือการฝึกอบรมแบบอัจฉริยะ (Smart e-learning/e-training/MOOC) ให้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยและบริษัท รวมถึงเป็นการสร้างเครือข่ายการทำงานวิจัยระหว่างมหาวิทยาลัยและบริษัทเพื่อนำไปสู่การพัฒนาสร้างนวัตกรรมที่เป็นจริง สามารถสร้างคุณค่าต่อผู้ประกอบการและสังคม

“ที่สำคัญทั้ง 3 หน่วยงานจะร่วมมือกันจัดทำโครงการบริการวิชาการเสริมสร้างประสบการณ์ความรู้วิชาชีพวิศวกรและช่างเทคนิค เพื่อแก้ไขปัญหาและปรับปรุงกระบวนการผลิต รวมถึงการบริการแก่ผู้ประกอบการ ด้านพัฒนาบุคลากรในทุกหน่วยงานให้มีสมรรถนะตรงตามคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งภายใต้ความร่วมมือกับสถานประกอบการครั้งนี้ถือเป็นการนำร่องในการผลิตบัณฑิตรุ่นใหม่ให้มีความเชี่ยวชาญ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม และสร้างโอกาสในการแข่งขันระดับสากล” อธิการบดีกล่าว